เคล็ดไม่ลับ กินข้าวก่อนออกกำลังกาย หากไม่อยากทำลายเป้าหมายการลดน้ำหนัก

     การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ต้องมองอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่เพียงแค่การกินและการออกกำลังกาย แต่ยังเกี่ยวกับ เวลา ในการบริโภคอาหารด้วยซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์ในการออกกำลังกาย อ่านต่อเพื่อเจาะลึกเรื่องการกินข้าวก่อนการออกกำลังกาย

ข้อควรระวังในการกินก่อนออกกำลังกาย

ข้อควรระวังในการกินก่อนออกกำลังกาย

     หลายคนอาจมีความคิดว่าการกินข้าวก่อนออกกำลังกายจะทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้น แต่ความจริงที่ไม่ควรมองข้ามคือ เวลา ในการบริโภคก่อนการออกกำลังกายที่จำเป็น ความสำคัญของเวลาในการบริโภค เวลาในการบริโภคอาหารก่อนการออกกำลังกายมีความสำคัญเพราะส่งผลต่อการย่อยและการปลดปล่อยพลังงานในร่างกาย

ประโยชน์และข้อเสียของการกินก่อนออกกำลังกาย

     ประโยชน์และข้อเสียของการกินก่อนออกกำลังกาย การบริโภคอาหารที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย แต่การกินเกินปริมาณก็อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย ควรคำนึงถึงเวลาในการกินก่อนการออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด

อาหารแนะนำก่อนการออกกำลังกาย

     การเลือกอาหารที่สามารถให้พลังงานสูงขึ้นและไม่ทำให้รู้สึกไม่สบายในระหว่างการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ โดยความเข้าใจในสิ่งที่ร่างกายต้องการช่วยให้เราเตรียมตัวสำหรับการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

     การกินข้าวก่อนการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการออกกำลังกายที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังช่วยในการป้องกันการบาดเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝน เลือกเวลาและอาหารที่เหมาะสมจะทำให้การออกกำลังกายของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การกินก่อนออกกำลังกาย ต้องระยะเวลาเท่าไหร่

การกินก่อนออกกำลังกาย ต้องระยะเวลาเท่าไหร่

   การกินก่อนการออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างพลังงานและประสิทธิภาพในการฝึกฝน แต่การกินในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อความไม่สบายและประสิทธิภาพการฝึกฝนของเรา ดังนั้น การรู้เวลาที่เหมาะสมในการบริโภคอาหารก่อนออกกำลังกายจึงเป็นความรู้ที่ควรมี 

การกินก่อนการออกกำลังกาย

เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างพลังงานและประสิทธิภาพในการฝึกฝน แต่การกินในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อความไม่สบายและประสิทธิภาพการฝึกฝนของเรา ดังนั้น การรู้เวลาที่เหมาะสมในการบริโภคอาหารก่อนออกกำลังกายจึงเป็นความรู้ที่ควรมี

ความสำคัญของการกินก่อนออกกำลังกาย
การบริโภคอาหารเหมาะสมก่อนการฝึกฝนช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการทำงาน และยังช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

อาหารแนะนำก่อนการออกกำลังกาย

การเลือกอาหารที่ให้พลังงานและน้ำตาลที่ไม่มากเกินไป เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต หรือขนมปังธัญพืช

  • ความสำคัญของการบริโภคน้ำ
    น้ำช่วยในการเปลี่ยนแปลงพลังงานให้กับกล้ามเนื้อและควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
  •  ความเข้าใจเรื่องแคลอรี่
    ไม่ควรบริโภคอาหารที่มีแคลอรี่สูงก่อนการฝึกฝน เพื่อป้องกันการเกิดอาการไม่สบาย

วิธีการเตรียมตัวก่อนการออกกำลังกาย

แนวทางในการบริโภคอาหารและการเตรียมตัวตั้งแต่เวลาตื่นนอนสำหรับการฝึกฝนในช่วงเช้า

การป้องกันการบาดเจ็บด้วยการบริโภคอาหารที่เหมาะสม
การบริโภคอาหารที่ดีสำหรับการฝึกฝนช่วยในการป้องกันการบาดเจ็บ และช่วยให้การฟื้นฟูกล้ามเนื้อเร็วขึ้น

การบริโภคอาหารที่เหมาะสมก่อนการออกกำลังกาย

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝน ต้องรู้ว่าเราต้องการอะไรจากการออกกำลังกายและเลือกอาหารที่สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา ให้สนุกกับการฝึกฝนและดูแลสุขภาพของเราในทุกวัน

เคล็ดลับการบริโภคอาหารก่อนวิ่ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เคล็ดลับการบริโภคอาหารก่อนวิ่ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

     การวิ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องการพลังงานและความเต็มที่ ดังนั้นการเตรียมตัวโดยการบริโภคอาหารที่เหมาะสมก่อนการวิ่งจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การวิ่งของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด และรู้สึกสบายตลอดการวิ่ง

  • 2 ชั่วโมงก่อนวิ่ง
    ในช่วงนี้ควรบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, และไขมันเพื่อสุขภาพ เช่น พาสต้าข้าวสาลี เนยถั่วและเยลลี่แซนด์วิช กรีกโยเกิร์ต หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดแก๊ส
  • 1 ชั่วโมงก่อนวิ่ง
    เป็นช่วงที่ควรเลือกสแน็คเล็กๆ ที่มีคาร์โบไฮเดรตย่อยง่าย เช่น กล้วย, ขนมปังโฮลวีท ธัญพืช และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเส้นใยสูง
  •  ความสำคัญของน้ำ
    การบริโภคน้ำเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งยังช่วยเติมเต็มน้ำในร่างกายและเตรียมตัวสำหรับการวิ่ง
  • 15 ถึง 30 นาทีก่อนวิ่ง
    เน้นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย เช่น กล้วยครึ่งผล หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปรตีนหรือไขมันสูง

การเตรียมตัวและบริโภคอาหารที่เหมาะสมก่อนวิ่งจะช่วยเสริมสร้างพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง ทำให้เราสามารถวิ่งได้มากขึ้น และหมดแรงน้อยลง จงปฏิบัติตามคำแนะนำด้านบนและสนุกกับการวิ่งของคุณ

หลังออกกำลังกาย ร่างกายควรได้รับสารอาหารอะไรบ้าง

หลังออกกำลังกาย ร่างกายควรได้รับสารอาหารอะไรบ้าง

เราควรทำให้แน่ใจว่าหลังออกกำลังกาย ร่างกายเราได้รับอาหารหลัก หรือ Macronutrients ที่ประกอบไปด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไขมันดี ในสัดส่วนที่พอดี เพราะสารอาหารแต่ละชนิดจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • โปรตีน
    หลังการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อของเราต้องการโปรตีนเพื่อซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ โปรตีนย่อยง่ายเช่น เวย์โปรตีน ไข่ ไก่ ปลา สามารถช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่ได้รับความเสียหายระหว่างการออกกำลังกาย
  • คาร์โบไฮเดรต
    เป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับร่างกาย. หลังการออกกำลังกาย, ร่างกายจะต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อเติมเต็มแหล่งพลังงานสำรองเช่น ไกลโคเจน ควรเน้นการบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพเช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และผลไม้
  • ไขมัน
    ถึงแม้ไขมันไม่จำเป็นต้องเร่งรีบบริโภคทันทีหลังการออกกำลังกาย แต่ไขมันยังคงมีบทบาทในการเสริมสร้างพลังงานและสนับสนุนการฟื้นฟูของร่างกาย ไขมันดีๆ เช่น จากอะโวคาโด งา ปลาทะเลและน้ำมันมะราวจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพทั้งร่างกายและสมอง
  • วิตามินและแร่ธาตุ
    ผักและผลไม้เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย. รวมถึงการช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและเผาผลาญแคลอรี่
  • น้ำ
    การบริโภคน้ำให้เพียงพอหลังการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ น้ำช่วยเรื่องการย่อยอาหาร การขนส่งสารอาหารไปยังเซลล์ต่างๆ และการขับของเสียออกจากร่างกาย

การเลือกอาหารหลังการออกกำลังกายให้เหมาะสมจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และช่วยในการลดไขมัน อย่าลืมความสำคัญของการเติมเต็มพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นให้กับร่างกายหลังการออกกำลังกายเพื่อประโยชน์สูงสุดจากการออกกำลังกายที่เราได้ทำ

     เวลาที่เหมาะสมที่ควรกินอาหารก่อนออกกำลังกายนั้นไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับประเภทอาหารที่เรากินเข้าไปด้วยค่ะ อย่างเช่น เรากินอาหาร พลังงานประมาณ 400-500 แคลอรี่ เราควรกินก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 90 นาที – 2 ชั่วโมงค่ะ เพื่อให้อาหารย่อยได้ทัน

     การไม่ทานอะไรเลยภายหลังออกกำลังกายไปจนกระทั่งเข้านอน เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย เกิดความเครียดภายในร่างกาย เกิดการสลายตัวของไกลโคนเจนและโปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง ประสิทธิภาพในการเล่นกีฬาครั้งต่อไปก็จะลดลงอีกด้วย

     ผู้ที่ออกกำลังกายต้องการการพักผ่อนที่ถูกต้อง แบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่การพักระหว่างการฝึก โดยฝึกกล้ามเนื้อในลักษณะฝึกความทนทานควรมีเวลาพัก 45 วินาที ถ้าต้องการสร้างความแข็งแรงต้องพัก 3-5 นาที ส่วนการเพิ่มพลัง ในการยกน้ำหนักก็ต้องพัก 5 นาทีขึ้นไป เพื่อให้ร่างกายกลับมาฟื้นเต็มที่ และแบบที่ 2 คือการพักผ่อนหลังการฝึก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *